ลุย 4 ประเทศกลุ่มทะเลบอลติค ฟินแลนด์ เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย เต็มๆด้วยตัวเอง Part 1

ทริปนี้จะเป็นการไปเที่ยวประเทศที่หลายๆคนไม่ค่อยคุ้นเคย ตัวหวานเองก็เช่นกันค่ะ ต้องทำการบ้านกันพอสมควร เพราะเอาจริงๆ ชื่อเมืองหลวงบางชื่อนี่ไม่เคยได้ยินเลย ทริปนี้เราจะเก็บเมืองหลวงของกลุ่มประเทศทะเลบอลติค ตอนเหนือของทวีปยุโรปนั่นเองค่ะ ซึ่งประเทศในแถบนี้จะมีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี ช่วงเวลาที่หวานไปถือว่าเป็นช่วงซัมเมอร์ของเค้านะคะ ซึ่งซัมเมอร์ไม่ได้หมายความว่าไม่หนาว โดยเฉพาะเมืองที่ลมแรงอย่างเฮลซิงกิ หนาวกว่าที่คิดไว้เยอะเลยค่ะ แต่การมาเที่ยวช่วงซัมเมอร์ก็ดีตรงที่ว่ากว่าจะมืด ก็ปาเข้าไปสามทุ่มแล้ว เท่ากับเรามีเวลาเที่ยวยาวนานขึ้นต่อวัน ไม่ต้องตื่นเช้ามาด้วยค่ะ เวลาที่นั่นจะช้ากว่าไทย 4 ชั่วโมงนะคะ



มาว่ากันด้วยเรื่องของงบประมาณกันก่อนเลยค่ะ เพราะหลายๆคนคงอยากทราบว่าทั้งทริปเนี่ยจะไปทุกประเทศนี่ต้องเตรียมเงินไว้เท่าไหร่ จะบานปลายหลายแสนรึเปล่า

เรื่อง pocket money ว่าควรเอาไปเท่าไหร่ หวานจะบอกว่าตกใจตัวเองมากๆ ว่า 12 วันนี้ ใช้เงินไปแค่ 27,000 บาท กินดีเกือบทุกมื้อ อาหารอร่อย และนั่งแท๊กซี่ตลอดด้วยค่ะ อันนี้เน้นว่าไม่รวมshopping นะคะ เพราะว่าแต่ละคนก็ซื้อของไม่เท่ากัน พวกราคาแท๊กซี่ บัส ตั๋วเข้านู่นนี่หวานจะเขียนไปเรื่อยๆ เท่าที่จำได้น้าค้า

โรงแรมที่พักหวานจะไม่ระบุชื่อนะคะ บางคนอาจจะสงสัยว่าเอ๊ะแล้วทั้งหมดทริปนี้จะต้องจ่ายเท่าไหร่ หวานจะบอกไว้ก่อนเลยว่า ที่พักสมัยนี้จองได้หลายรูปแบบ ทั้ง airbnb, service apartment, booking.com และอื่นๆอีกมากมาย หวานจะแนะนำแค่ว่าควรพักใน area ไหนจะสะดวกสบายต่อการเดินทางของเรามากที่สุดแล้วกันค่ะ เรื่องราคานี่โรงแรมกับอพาทเม้นท์หรือ airbnb ก็ต่างกัน สามารถกำหนดงบประมาณคร่าวๆของตัวเองไว้ก่อนแล้วค่อยๆหา ค่อยๆจองไปค่ะ ถ้าสังสัยเรื่อง area ก็ inbox มาหาหวานโดยตรงได้เลย เดี๊ยวช่วยดูให้ว่าโอเครึเปล่า

เรื่องตั๋วเครื่องบินก็เช่นกัน ราคาโปรเดี๊ยวนี้แรงมาก แนะนำให้เพื่อนๆไปตามเพจโปรต่างๆ โปรออกก็รีบๆจองกันไว้ค่ะ
เดี๊ยวเพจโปรทั้งหลายจะแปะไว้ให้ที่ fb page wthediary ค่ะ


วางแพลนก่อนไปไว้ตามนี้นะคะ

Baltic Capitals Trip (August 2016)
Helsinki (Finland), Tallinn (Estonia), Riga (Latvia), Vilnius (Lithuania)

Date
Details
1 Aug (Helsinki)
Bangkok-Helsinki by Finn Air AY89 (8.55-15.05)
Walking around market square

2 Aug
Suomenlinna Island
Hop-on Hop-off Bus city tour

3 Aug
Seurasaari Open-Air Museum

4 Aug (Tallinn)
Helsinki (Finland) to Tallinn (Estonia) by ferry (Viking line) 11.30-14.00
Walking around Old Town

5 Aug
Lahemaa National Park (one day tour by traveler.ee)

6 Aug (Riga)
Tallinn (Estonia) to Riga (Latvia) by bus tour traveler.ee 9.00-21.00

7 Aug
Walking around Old Town

8 Aug
Jurmala City (White sand beach) by train

9 Aug (Vilnius)
Riga (Latvia) to Siaulai (Lithuania) by bus
Siaulai to see Hill of Crosses

Siaulai to Vilnius (Lithuania) by train

10 Aug
Trakai City
Walking around old town

11 Aug
Kaunas City (2nd biggest city of Lithuania)

12 Aug
Vilnius-Helsinki by Finn Air AY132 (11.45-13.25) stop over 4h 10m
Helsinki-Bangkok by Finn Air AY89 (17.35-7.15 +1day)



เกริ่นไว้ก่อนเบื้องต้นเลยว่า ทริปนี้จะออกแนวชิวๆ สบายๆ ไม่รีบร้อนเท่าไหร่ เพราะว่าไปกับคุณแม่สองคน ถ้าจัดหนักจัดเต็มมาก คุณแม่อาจจะเดินไม่ไหว เลยจัดเอาไว้ค่อนข้างหลวมๆ ซึ่งจริงๆแล้ว ก็ค่อนข้างเหมาะกับประเทศเหล่านี้มากพอสมควร เพราะที่นี่ ค่อนข้างชิว และอากาศดีมากกกกกก เย็นสบาย

ข้อควรรู้ก่อนไป

Money
ทั้ง 4 ประเทศนี้ใช้ สกุลเงิน ยูโร ค่าครองชีพที่ฟินแลนด์สูงที่สุดค่ะ และค่อยๆลดลงมาเป็น เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย ตามลำดับ อันนี้ไม่ได้หาข้อมูลเชิงลึกนะคะ เอาจากค่าอาหาร การเดินทางที่ใช้จ่ายตอนไปเที่ยวค่ะ
Electricity
230 V รูเสียบเป็นกลมๆ 2 รู
Simcard
Finland หาซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อ R-kioski (มีทั่วเมืองเหมือน 7eleven บ้านเรา) ทีสนามบินก็มีค่ะ ไปถึงปุ๊บก็ซื้อได้เลย  7.9 ยูโร ของ DNA

Estonia หวานซื้อที่ร้านสะดวกซื้อที่ท่าเรือตอนถึง 3 ยูโร เล่นเนทได้ unlimit ค่ะ ของ Elisa

Latvia ซื้อได้ที่ร้านขายโทรศัพท์ ในห้าง  Galerija Centrs อยู่ใน Old Town หาไม่ยากค่ะ แต่ว่าที่นี่จะไม่มีแบบ Unlimit ต้องเลือกว่าจะเอาเนทเท่่าไหร่ ราคาค่อนข้างสูง แต่จริงๆเมืองนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ simcard นะคะ ถ้าอยากเล่นเนท เค้ามี wifi ให้ทั้งเมืองค่ะ สะดวก สบาย ซิมไม่จำเป็นเลย หวานซือ 500 MB 3.56 euro ของ Bite LV

Lithuania ซื้อได้ใน supermarket ทั่วไปค่ะ หวานซื้อ 1gb 2 ยูโร ของ Pildyk แต่ที่นี่ก็มีบริการ wifi ให้แทบทุกที่ค่ะ

การเดินทาง
การเดินทางค่อนข้างสะดวกมากๆค่ะ มีทั้ง รถราง, รถบัส, รถไฟ และแท๊กซี่ เลือกตามสะดวกได้เลย
Shopping
สายแฟชั่นอาจจะต้องผิดหวังเพราะที่นี่ไม่ค่อยมีอะไรให้ช็อปสักเท่าไหร่ค่ะ แต่เค้ามีของ Handmade น่ารักขายอยู่เยอะเลย
Food
สวรรค์คนรักปลาแซลมอนเลยค่ะ ไปที่ร้านไหน signature dish ของเค้าก็จะมีแซลมอนอยู่ ร้านอาหารไทยเรียกได้ว่าหาแทบไม่ได้เลยจะดีกว่าค่ะ อาหารจีนก็น้อยมากๆ อาหารที่ประเทศลัตเวียอร่อยพีคมากค่ะ เดี๊ยวเขียนชื่อร้านให้ค่ะ


Day 1 Helsinki, Finland

วันแรกมาถึงที่เฮลซิงกิเวลาตรงเป๊ะ บ่ายสาม พอมาถึงก็รับกระเป๋า และถาม information ว่า R Kioski ไปทางไหนเพื่อจะไปซื้อซิมค่ะ หาไม่ยากเลย จากสนามบินหวานเรียกแท๊กซี่ ให้มาส่งที่โรงแรมซึ่ง โรงแรมตั้งอยู่ตรง market square เลยค่ะ ค่าแท๊กซี่ 44 ยูโรค่ะ จะใช้บัสก็ได้ค่ะ ที่เรียกแท๊กซี่เพราะสะดวกกับคุณแม่ด้วย

ใครจะมาเที่ยวที่เฮลซิงกิ หวานแนะนำให้พักโรงแรมใน area ที่ใกล้ Market Square เป็นหลักนะคะ เพราะว่าตลาดนี้ตั้งอยู่ตรงท่าเรือ ติดทะเลบอลติค เป็นทั้งจุด hop-on hop-off และรถราง ร้านอาหารเพียบ สามารถเดินไป Main Train Station และ Bus Station ได้ด้วยค่ะ

พอมาถึงเชคอินเรียบร้อยก็ออกมาเดินเล่นค่ะ เดินแถว Market Square 






แล้วก็เดินไปตรง Esplanade park เป็นสวนสาธารณะใจกลางเมือง เดินไปในย่านแหล่งช้อปปิ้ง เดินตาม city map ไปเรื่อยๆค่ะ ข้อดีของการพักอยู่ใจกลางเมืองคือเราสามารถเดินไปได้ทุกที่ไม่ไกลค่ะ 




เดินsurvey ถ่ายรูปเล่นสักพัก ก็มาทานข้าวเย็นที่ Kappeli Restaurant ร้านสวยดูดี มี section dinner ของหวานและบาร์ค่ะ สั่งอาหารไปตามนี้









มื้อนี้ 90 ยูโรค่ะ ทาน 2 คน อาหารธรรมดามว๊ากกก รสชาติเบเบมากๆค่ะ ถ้าเน้นร้านสวยก็โอเคค่า พอทานได้ ทานเสร็จก็เดินกลับโรงแรมพักผ่อนค่ะ


Day 2

วันนี้เราจะไปเที่ยวเกาะเล็กๆกันค่ะ ตอนแรกก็ตัดสินใจว่าเอ๊ะ จะนั่ง boat tour ดูดีไม๊ แต่ที่โรงแรมเค้าแนะนำบอกว่า “ถ้ายูนั่ง boat tour ยูก็จะแค่เห็นผ่านไป รอบๆ ไม่ได้สัมผัสอะไรจริงๆ ยูควรนั่งเรือไปที่เกาะ Suomenlinna ดีกว่า ไปเดินเล่น อากาศดี และสวยด้วย 30 นาทีจากท่าเรือตรง market square เอง” พูดมาขนาดนี้แล้วก็ไปสิคะ ซื้อตั๋ว 7 ยูโร รวมไปกลับค่ะ เรือนี้ก็จะหยุดที่ Vallisaarisquar Island ก่อน ใครจะลงก็ได้ไม่ได้ก็ได้ค่ะ สำหรับคนที่เลือกจะแวะเดินเล่นที่นี่ มีเวลาอีก 1 ชม เรือต่อไปก็จะมารับเพื่อไปต่อที่ Suomenlinna Island ใช้เวลา 10 นาทีเท่านั้นค่ะ

ทางเดินไปขึ้นเรือมีเรือขายคุกกี้น่ารักดีค่ะ



มาว่ากันที่เกาะแรกก่อนและกัน คิดว่าไหนๆก็มาและ อะเดินเล่นเกาะแรกซะหน่อย เกาะนี้ไม่ได้มีสิ่งปลูกสร้างอะไรมากมายค่ะ ธรรมชาติล้วนๆ หวานกับคุณแม่นี่แทบอยากจะเก็บอากาศกลับมาเมืองไทย อากาศดีมากๆๆๆๆๆๆๆ






เดินจนครบชั่วโมงก็นั่งเรือต่อไปที่ Suomenlinna Island ที่นี่เป็นป้อมปราการเก่าค่ะ มีพิพิธภัณฑ์ มีร้านอาหาร คาเฟ่น่ารักๆเต็มเลย



นี่ก็เป็นเรือที่เราใช้โดยสารค่า นั่งข้างบนวิวดี๊ดีย์ค่า
















เดินมาขึ้นเรือกลับที่ King’s Gate ค่ะ ใช้เวลา 25 นาทีก็มาถึง Market Square
ระหว่างนั่งเรือกลับ มีน้องเป็ดเต็มเลย



วิวก่อนเรือเทียบฝั่งค่า สวยงามมากกกก




ถึงปุ๊บก็เริ่มหิว ก็หาอะไรทานง่ายๆตรงนั้นเลยค่ะ อาหารท้องถิ่นของเค้าทานกันแบบนี้
ก็พอทานได้ค่ะไหนๆก็มาก็ทานสไตล์เค้าซะหน่อย
เป็นแซลมอนอาหารจานหลักเค้านั่นแหละค่า สิ่งนี้ 13 euro 




แล้วก็เดินไป hop-on hop-off Stop ตรง market square นั่นแหละค่ะ ซื้อตั๋ว 25 ยูโร เนื่องจากเราซื้อตั๊วตอนบ่ายสามครึ่ง แล้วรถเค้าหยุดให้บริการประมาณ 5 โมงครึ่ง เค้าจึงออกตั๋วให้เราสามารถใช้ตั๋วได้ 2 วันเพื่อความคุ้ม ปกติหวานไม่ค่อยขึ้น hop on hop off ค่ะ แต่ว่าคราวนี้อยากมองเมืองรอบๆเพลินๆ อยากลงไปดูอะไรก็ลง ก็ดีนะคะ เป็นประสบการณ์ ที่ดีและค่อนข้างสบาย เพราะรถก็มาตลอดๆในแต่ละ stop ไม่ต้องรอนานขนาดนั้น

ใครอยากลงตรงไหนก็เลือกลงเลยค่ะ
หวานเลือกตามนี้นะคะ

Temppeliaukio Church เป็นโบสถ์หินที่สวยงามเลยค่ะ นักท่องเที่ยวนิยมมาเยี่ยมชมที่นี่ ภายในโบสถ์เป็นหินตามรูปนี้แหละค่ะ







Sibelius monument
ซึ่งถ้าใครได้มาเฮลซิงกิก็ควรจะมาเยี่ยมเยียนจุดนี้ค่ะ



ตรง stop นี้มีร้านขายของวินเทจน่ารักมากค่ะ



Senate Square ซึ่งเป็น stop แรกของรถ hop-on hop-off ค่ะ เป็นจตุรัสที่มีความสำคัญ ที่แสดงว่าฟินแลนด์เป็นเอกราชใน .. 1917 ในช่วง Russian Revolution และยังคงรักษาความเป็นเอกราชไว้ได้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
ตรงนั้นก็จะมี The Cathedral ตั้งแต่ปี 1957 ที่มีรูปปั้นของ Martin Luther, Melanchthon and Mikale Agricola บุคคลสำคัญที่ริเริ่มการปฎิรูปประเทศฟินแลนด์







The flea market ก็มีของกินเล่นไม่เยอะมาก และก็เป็นคนท้องถิ่นนำของที่ใช้แล้วมาขายกัน มีของวินเทจ ผ้าทอ เสื้อผ้าค่ะ




Main Railway station




Uspenski Catheral




ไปมาหมดนี้ก็หิวอีกแล้วค่า เลยฝากท้องไว้กับร้าน Roster แถวโรงแรมค่า




ร้านนี้มีเมนูให้เลือกไม่มาก แต่รับรองว่ารสชาติดีเลยทีเดียวค่ะ ทั้งหมดนี้ 28 euro ค่า
อร่อยกว่ามื้อเย็นวันแรกเยอะเลยค่ะ

ทานอิ่ม จบวัน กลับโรงแรมพักผ่อนค่า


Day 3

เริ่มวันใหม่ยามเช้าด้วยบุปเฟต์อาหารเช้าของโรงแรม ที่ทานไปมองวิวทะเลบอลติคไปเพลินๆค่ะ
เป็นการเริ่มวันที่มีความสุข มีพลังไปเดินเที่ยวต่อ


วันนี้เราจะไปเดินเล่นที่ Seurasaari Open air museum กันนะคะ ซึ่งไปได้ไม่ยากค่ะ  ขึ้นบัสหมายเลข 24 ไปสุดสายก็ถึงค่ะลงที่ป้าย Seurasaari bus stop ก็เดินไม่ไกลค่ะ ขึ้นตรงหน้าห้าง Forum  หาในแผนที่ได้ไม่ยากค่ะ ซื้อตั๊วบนบัสได้เลย 3.20 euro ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง ที่นี่ก็จะรวบรวมเอาตึกราบ้านช่องของชาวฟินแลนด์สมัยก่อนๆมารวมไว้ ค่าเข้า museum 9 euro ค่ะ เดินเล่นถ่ายรูป อากาศดีค่ะ ได้เห็นด้วยว่าคนสมัยก่อนนั้นเค้าอาศัยอยู่กันยังไง ขอบอกว่าเตียงนี่เล็กมากๆเลย ขนาดเราตัวเล็กยังคิดว่านอนไม่ไหว ไม่รู้ว่าตัวใหญ่อย่างเค้านอนไหวกันได้ยังไง 












เรื่องข้อมูลของบ้านแต่ละหลังเนี่ย ตอนซื้อตั๋วเค้าจะแจกเป็นหนังสือเล็กๆ ในนั้นจะบอกรายละเอียดนะคะว่าบ้านของใคร แต่ละหลัง อธิบายไว้ สำหรับคนที่อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมค่า มีป้ายข้อมูลด้านหน้าของแต่ละหลังด้วยค่ะ

เดินเล่นเพลินๆ ไม่รีบร้อน เดินครบแล้วก็นั่งบัสกลับเข้าเมืองค่ะ หมายเลข 24 เหมือนเดิมราคาเท่าขามาค่ะ 3.20 euro กลับเข้าไปในเมืองตรงแถวห้าง Stockman ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้าม Forum ก็รีบหาอะไรทานก่อนเลยค่ะ ทานเสร็จก็เดินเล่นซื้อของช้อปปิ้งเล็กๆน้อยๆแถวๆนั้น

แล้วขึ้น Hop-on Hop-off ไปลงที่ป้าย Café Ursula ค่ะ เป็นคาเฟ่ที่คนนิยมมานั่งชิวกันมากๆ 
เพราะว่าวิวดีค่ะ 




และตรงนั้นมีคนโดดบันจี้จั๊มทุกห้านาทีเลย น่าหวาดเสียวมากค่ะ


ไม่รับจองโต๊ะนะคะ มาก่อนได้ก่อนค่ะ อยากได้โต๊ะไหนก็ไปนั่งใกล้ๆค่ะ เค้าลุกก็รีบเสียบเลย

ถึงจะแดดออกแต่ลมแรงมากๆค่ะ ที่ร้านเค้าก็จะมีผ้าห่มให้ห่ม นั่งชิวได้แบบอุ่นๆค่ะ นั่งกันเพลินเลย แล้วก็เรียกแท๊กซี่กลับโรงแรม 11 euro ค่ะ 

หาร้านแถวโรงแรมทานแล้วก็จบท้ายด้วย lobster จานนี้ค่า


อิ่มอร่อยจบวันค่ะ  เดี๊ยวพรุ่งนี้ เราจะเดินทางไปประเทศเอสโตเนียกันแล้วน้าค้า
ตามลิงค์นี้เลยค่า

http://wthediary.blogspot.com/2016/09/4-part-2.html

Comments

Popular posts from this blog

ไหว้พระขอพรที่พม่า ทริปหนึ่งวันเช้ากลับเย็น

เที่ยวอิหร่าน ซึมซับความสวยงามของวัฒนธรรมเปอร์เซีย Part1

Amazing Oman Part I